ร้านอาหารญี่ปุ่น อาทิ บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, ราเมง ฯลฯ อร่อยๆ มากมายในกรุงเทพฯ › สาระน่ารู้ By Staff › Gyudon ข้าวหน้าเนื้อแสนอร่อย
Gyudon ข้าวหน้าเนื้อแสนอร่อย
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับอาหารจานด่วน (จานเดียว) ยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นกันค่ะ จะเป็นเมนูอะไรนั้น ไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ :)
กิวด้ง (牛丼 - Gyuudon) หรือที่คนไทยเรียกว่า "ข้าวหน้าเนื้อ" เป็นดมบุริอีกประเภทหนึ่งค่ะ ส่วนประกอบหลักๆ ที่เห็นกันประจำก็คือ เนื้อวัว (牛 - Gyuu) และหัวหอมใหญ่ นำมาตุ๋นแบบที่ทำดมบุริทั่วไปนั่นแหละค่ะ น้ำซอสที่ใช้ปรุงกิวด้งส่วนใหญ่จะนิยมใช้ผงดาชิต้มทำน้ำซุป แล้วก็ปรุงรสด้วยโชยุและมิริน บางสูตรก็จะใส่เส้นชิระตะกิ (白滝 - Shirataki) คือเส้นที่ทำจากวุ้นคนเนียะขุ (こんにゃく - Konnyaku) ลงไปตุ๋นด้วย เมื่อตุ๋นเสร็จแล้วก็นำไปราดข้าวทานค่ะ ก่อนทานก็จะราดด้วยไข่ดิบจะอร่อยมากๆ แต่ถ้าใครไม่ทานไข่ดิบก็ไม่ต้องไปฝืนใส่นะคะ ปกติคนญี่ปุ่นจะทานกับเครื่องเคียงตามนี้ค่ะ มีขิงดอง, พริกชิจิมิ (เป็นพริก 7 รสของญี่ปุ่น คล้ายกับพริกป่นของไทย) และซุปมิโซะ
ที่ประเทศญี่ปุ่น กิวด้งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมสูงมาก มีขายอยู่เกือบทุกร้านอาหาร และยังมีร้านแฟรนไชส์ที่ขายกิวด้งเป็นหลักอยู่อีกหลายเจ้าอีกด้วย เจ้าที่ดังๆ พอที่คนไทยจะรู้จักก็มี โยชิโนะยะ (吉野家 - Yoshinoya), สุกิยะ (すき家 - Sukiya) และมัตสึยะ (松屋 - Matsuya) รสชาติของกิวด้งก็จะแตกต่างกันไปตามสูตรของแต่ละร้าน แต่ละร้านก็ได้รับความนิยมแตกต่างกันไปตามความชอบของลูกค้าค่ะ เราสามารถหาร้านกิวด้งทานได้เกือบทุกที่เลยล่ะค่ะ เพราะมีร้านขายกิวด้งเยอะมาก แค่ของแฟรนไชส์ทั้ง 3 เจ้าที่เล่าไปก็นับไม่ถ้วนแล้ว ถ้าเทียบกับบ้านเราก็เหมือนร้าน 7-Eleven นั่นแหละค่ะ มีอยู่แทบทุกที่ เลยหากิวด้งทานได้ง่ายมากๆ กิวด้งจึงได้รับความนิยมสูงมากในญี่ปุ่น
ในปี ค.ศ. 2004 เกิดเชื้อวัวบ้าระบาดในสหรัฐอเมริกา ทำให้ธุรกิจกิวด้งมีปัญหาขาดทุนสูงมาก เพราะร้านแฟรนไชส์กิวด้งในญี่ปุ่นนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ โยชิโนะยะที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้มาก ประกาศหยุดขายกิวด้งในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2004 แล้วก็เปลี่ยนมาใช้เนื้อหมูแทน เรียกว่า บุตะด้ง (豚丼 - Butadon) สุกิยะเองก็ประสบปัญหาเช่นกัน แต่ก็ยังขายกิวด้งต่อไป โดยเปลี่ยนไปใช้เนื้อวัวจากออสเตรเลียแทน แล้วก็มีเมนูเนื้อหมูเพิ่มขึ้นมาเหมือนกัน ชื่อว่า ทงด้ง (トン丼 - Tondon)
(คำว่า buta และ ton ในภาษาญี่ปุ่นเขียนด้วยคันจิตัวเดียวกันคือ 豚 แปลว่า หมู เหมือนกันค่ะ แค่ออกเสียงต่างกันเฉยๆ)
เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2005 ญี่ปุ่นเริ่มกลับมานำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ อีกครั้ง แต่ในเดือนมกราคม ปี 2006 ก็ต้องกลับมาแบนอีกรอบ เพราะตรวจพบเชื้อโรคจากเนื้อวัวที่ส่งมาญี่ปุ่น หลังจากการตรวจสอบและปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลญี่ปุ่นแล้ว ในเดือนกันยายนปีเดียวกันนั้น ก็ได้ยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ ไป ร้านกิวด้งก็เลยกลับมาดำเนินธุรกิจได้สะดวกอีกครั้งค่ะ
สำหรับในประเทศไทยเองก็มีร้านกิวด้งโดยเฉพาะอยู่ร้านหนึ่ง ชื่อร้าน Gyunoya ค่ะ ผู้เขียนเองก็ไม่เคยไปทานหรอกค่ะ ทราบมาจากเพื่อนๆ อีกทีหนึ่ง เห็นเค้าว่ากันว่ารสชาติอร่อย คล้ายกับกิวด้งของร้านโยะชิโนะยะ จะจริงหรือไม่จริงเพื่อนๆ ก็ต้องลองไปพิสูจน์เองแล้วล่ะค่ะ :)
กิวด้ง (牛丼 - Gyuudon) หรือที่คนไทยเรียกว่า "ข้าวหน้าเนื้อ" เป็นดมบุริอีกประเภทหนึ่งค่ะ ส่วนประกอบหลักๆ ที่เห็นกันประจำก็คือ เนื้อวัว (牛 - Gyuu) และหัวหอมใหญ่ นำมาตุ๋นแบบที่ทำดมบุริทั่วไปนั่นแหละค่ะ น้ำซอสที่ใช้ปรุงกิวด้งส่วนใหญ่จะนิยมใช้ผงดาชิต้มทำน้ำซุป แล้วก็ปรุงรสด้วยโชยุและมิริน บางสูตรก็จะใส่เส้นชิระตะกิ (白滝 - Shirataki) คือเส้นที่ทำจากวุ้นคนเนียะขุ (こんにゃく - Konnyaku) ลงไปตุ๋นด้วย เมื่อตุ๋นเสร็จแล้วก็นำไปราดข้าวทานค่ะ ก่อนทานก็จะราดด้วยไข่ดิบจะอร่อยมากๆ แต่ถ้าใครไม่ทานไข่ดิบก็ไม่ต้องไปฝืนใส่นะคะ ปกติคนญี่ปุ่นจะทานกับเครื่องเคียงตามนี้ค่ะ มีขิงดอง, พริกชิจิมิ (เป็นพริก 7 รสของญี่ปุ่น คล้ายกับพริกป่นของไทย) และซุปมิโซะ
ที่ประเทศญี่ปุ่น กิวด้งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมสูงมาก มีขายอยู่เกือบทุกร้านอาหาร และยังมีร้านแฟรนไชส์ที่ขายกิวด้งเป็นหลักอยู่อีกหลายเจ้าอีกด้วย เจ้าที่ดังๆ พอที่คนไทยจะรู้จักก็มี โยชิโนะยะ (吉野家 - Yoshinoya), สุกิยะ (すき家 - Sukiya) และมัตสึยะ (松屋 - Matsuya) รสชาติของกิวด้งก็จะแตกต่างกันไปตามสูตรของแต่ละร้าน แต่ละร้านก็ได้รับความนิยมแตกต่างกันไปตามความชอบของลูกค้าค่ะ เราสามารถหาร้านกิวด้งทานได้เกือบทุกที่เลยล่ะค่ะ เพราะมีร้านขายกิวด้งเยอะมาก แค่ของแฟรนไชส์ทั้ง 3 เจ้าที่เล่าไปก็นับไม่ถ้วนแล้ว ถ้าเทียบกับบ้านเราก็เหมือนร้าน 7-Eleven นั่นแหละค่ะ มีอยู่แทบทุกที่ เลยหากิวด้งทานได้ง่ายมากๆ กิวด้งจึงได้รับความนิยมสูงมากในญี่ปุ่น
ในปี ค.ศ. 2004 เกิดเชื้อวัวบ้าระบาดในสหรัฐอเมริกา ทำให้ธุรกิจกิวด้งมีปัญหาขาดทุนสูงมาก เพราะร้านแฟรนไชส์กิวด้งในญี่ปุ่นนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ โยชิโนะยะที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้มาก ประกาศหยุดขายกิวด้งในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2004 แล้วก็เปลี่ยนมาใช้เนื้อหมูแทน เรียกว่า บุตะด้ง (豚丼 - Butadon) สุกิยะเองก็ประสบปัญหาเช่นกัน แต่ก็ยังขายกิวด้งต่อไป โดยเปลี่ยนไปใช้เนื้อวัวจากออสเตรเลียแทน แล้วก็มีเมนูเนื้อหมูเพิ่มขึ้นมาเหมือนกัน ชื่อว่า ทงด้ง (トン丼 - Tondon)
(คำว่า buta และ ton ในภาษาญี่ปุ่นเขียนด้วยคันจิตัวเดียวกันคือ 豚 แปลว่า หมู เหมือนกันค่ะ แค่ออกเสียงต่างกันเฉยๆ)
เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2005 ญี่ปุ่นเริ่มกลับมานำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ อีกครั้ง แต่ในเดือนมกราคม ปี 2006 ก็ต้องกลับมาแบนอีกรอบ เพราะตรวจพบเชื้อโรคจากเนื้อวัวที่ส่งมาญี่ปุ่น หลังจากการตรวจสอบและปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลญี่ปุ่นแล้ว ในเดือนกันยายนปีเดียวกันนั้น ก็ได้ยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐฯ ไป ร้านกิวด้งก็เลยกลับมาดำเนินธุรกิจได้สะดวกอีกครั้งค่ะ
สำหรับในประเทศไทยเองก็มีร้านกิวด้งโดยเฉพาะอยู่ร้านหนึ่ง ชื่อร้าน Gyunoya ค่ะ ผู้เขียนเองก็ไม่เคยไปทานหรอกค่ะ ทราบมาจากเพื่อนๆ อีกทีหนึ่ง เห็นเค้าว่ากันว่ารสชาติอร่อย คล้ายกับกิวด้งของร้านโยะชิโนะยะ จะจริงหรือไม่จริงเพื่อนๆ ก็ต้องลองไปพิสูจน์เองแล้วล่ะค่ะ :)
Posted by
JGB Staff
at
2011年06月08日
18:02
| สาระน่ารู้ By Staff
| สาระน่ารู้ By Staff