ร้านอาหารญี่ปุ่น อาทิ บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, ราเมง ฯลฯ อร่อยๆ มากมายในกรุงเทพฯ › สาระน่ารู้ By Staff › ผลไม้ประจำฤดูกาลในญี่ปุ่น (1)
ผลไม้ประจำฤดูกาลในญี่ปุ่น (1)
วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับผลไม้ประจำฤดูกาลของญี่ปุ่นกันค่ะ ผลไม้เหล่านี้อาจจะไม่ได้มีแหล่งกำเนิดในญี่ปุ่น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ที่หาทานได้ทั่วไปในญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งปกติผลไม้ตามฤดูกาลจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน (เดือนมีนาคม-สิงหาคม) และช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว (เดือนกันยายน-เดือนกุมภาพันธ์)
ผลไม้ประจำฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน
สตรอเบอร์รี่ (いちご - Strawberry)
ในปัจจุบันนี้ ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการผลิตและบริโภคสตรอเบอร์รี่มากที่สุดในโลก สตรอเบอร์รี่ของญี่ปุ่นมีรูปทรงและสีสันที่สวยงาม ดูแล้วน่าทาน และเราสามารถหาสตรอเบอร์รี่ทานได้ตลอดทั้งปีเลย แต่ฤดูที่สตรอเบอร์รี่จะสมบูรณ์ที่สุดคือช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม คุณสามารถหาซื้อสตรอเบอร์รี่ได้เกือบทุกที่ในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นร้านขายผลไม้ในห้างสรรพสินค้า, ร้านขายผลไม้ข้างทางทั่วไป, ร้านสะดวกซื้อ หรือในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งส่วนใหญ่จะมีราคาประมาณ 500 เยน (10 ลูก)
และนอกจากนี้ ยังมีฟาร์มสตรอเบอร์รี่อีกหลายแห่งในญี่ปุ่น เปิดให้ลูกค้าเข้าไปเก็บผลสตรอเบอร์รี่กินกันได้แบบสดๆ เลย โดยส่วนใหญ่จะคิดราคาคนละ 1,500 เยนสำหรับผู้ใหญ่ หลังจากจ่ายเงินแล้วคุณสามารถกินสตรอเบอร์รี่ได้ตามต้องการภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งก็คือบุฟเฟ่ต์สตรอเบอร์รี่นั่นเอง
ปกติแล้วชาวญี่ปุ่นจะทานสตรอเบอร์รี่จิ้มกับน้ำตาลบ้าง ทานกับนมบ้าง โยเกิร์ตบ้าง แต่วิธีทานที่เป็นที่นิยมที่สุดก็คือ ล้างผลสตรอเบอร์รี่ให้สะอาด แล้วทานกันแบบสดๆ เลย จะได้พบกับความอร่อยสุดยอดที่สุด
เมล่อน (メロン - Melon)
ที่ญี่ปุ่น เมล่อนจะมีอิมเมจว่าเป็นผลไม้ที่มีราคาแพง และนิยมนำไปมอบเป็นของขวัญเยี่ยมไข้เวลาคนรู้จักเข้าโรงพยาบาล Musk melonที่ปลูกในเรือนกระจกและดูแลอย่างดีจะมีราคาถึงผลละมากกว่า 10,000 เยนเลยทีเดียว Musk melon ที่วางขายในร้านขายผลไม้จะถูกซีลอย่างดี และมีฉลากบอกว่าวันไหนที่จะมีรสชาติดีที่สุด สรุปง่ายๆ คือ บอกว่าควรจะทานเมล่อนผลนี้ในวันไหนนั่นเอง ถ้าคุณไม่ต้องการจะซื้อเมล่อนทั้งผล แต่อยากจะลองชิมรสชาติเพียงนิดหน่อย แนะนำให้ไปทานเค้กที่ทำจาก Musk melon ในร้านขายขนมแทน
นอกจากนี้ยังมีเมล่อนที่ราคาไม่แพงมากอยู่ด้วยเหมือนกัน เช่น Andes melon ที่มีลายตาข่ายสีขาวบนเปลือกเหมือนกันกับ Musk melon แต่มีราคาต่ำกว่า 1,000 เยน หรือจะเป็น Prince melon ที่มีเปลือกสีเขียวอ่อนไม่มีลายตาข่าย ราคาเพียง 500 เยน
เมล่อนทั้งหมดนี้ต่างก็มีรสชาติอร่อยมากๆ ปกติแล้วฤดูของเมล่อนจะอยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน-เดือนกรกฎาคม แต่คุณสามารถหาซื้อ Musk melon ได้ตลอดทั้งปี
อ้างอิงจาก Japan National Tourism Organization
Posted by
JGB Staff
at
2011年07月11日
19:27
| สาระน่ารู้ By Staff
| สาระน่ารู้ By Staff