ร้านอาหารญี่ปุ่น อาทิ บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น, ซูชิ, ราเมง ฯลฯ อร่อยๆ มากมายในกรุงเทพฯ › สาระน่ารู้ By Staff › ผลไม้ประจำฤดูกาลในญี่ปุ่น (3)
ผลไม้ประจำฤดูกาลในญี่ปุ่น (3)
สวัสดีค่ะ วันนี้มีเรื่องเกี่ยวกับผลไม้มาเล่าต่อค่ะ แต่คราวนี้เปลี่ยนฤดูบ้างแล้วนะคะ มาพบกับผลไม้ยอดนิยมในช่วงฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาวของญี่ปุ่นกันค่ะ :D
ผลไม้ประจำฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว ตอนที่ 1
ลูกแพร์ หรือ สาลี่ (梨 - Pear)
สาลี่ญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Sand Pear เพราะมีเนื้อค่อนข้างหยาบและกรอบ และที่น่าสนใจคือ สาลี่ชนิดนี้สามารถนำมาทานได้ทันทีหลังจากเก็บเกี่ยวโดยไม่ต้องรอให้สุก ฤดูสาลี่ในญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม เราสามารถหาซื้อสาลี่ได้ในร้านผลไม้ทั่วไป (ผลละประมาณ 100 เยน)
หากพูดถึงสาลี่ญี่ปุ่น หลายคนมักจะนึกถึงสาลี่ Nijusseiki สาลี่เปลือกสีเหลืองเขียวที่ถูกส่งออกไปต่างประเทศ สาลี่ชนิดนี้มีเนื้อไม่หยาบและรสชาติที่สดใหม่เสมอ บวกกับความฝาดเล็กน้อยและความชุ่มฉ่ำน้ำที่อยู่ในผลสาลี่ ทำให้ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น นอกจากสาลี่ Nijusseiki แล้ว สาลี่โคซุย (Kosui) และโฮซุย (Hosui) ที่มีเปลือกสีน้ำตาลแดงก็ได้รับความนิยมเช่นกัน สาลี่โคซุยกับโฮซุยจะมีรสชาติหวานกว่า Nijusseiki
ลูกพลับ (柿 - Persimmon)
ลูกพลับ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Kaki (柿) เป็นผลไม้ในฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น ลูกพลับมีทั้งพันธุ์ที่หวานและพันธุ์ที่ขม สำหรับลูกพลับหวานจะมีสองสายพันธุ์คือ ฟุยุงากิ (Fuyugaki) จะมีเนื้อนุ่มและหวานฉ่ำ ส่วนอีกพันธุ์คือ จิโรงากิ (Jirogaki) มีเนื้อแน่นและกรอบ (ราคาผลละประมาณ 100 เยน) เกินครึ่งหนึ่งของลูกพลับในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะเป็นฟุยุงากิที่นิยมทานเป็นของหวาน
วิธีทานลูกพลับหวานก็เพียงแค่ใช้มีดปอกเปลือกเอาเมล็ดออก แล้วหั่นเป็นชิ้น แต่คุณไม่สามารถทานลูกพลับขมได้ทันที จะต้องปอกเปลือกแล้วทำให้แห้ง โดยเอาไปตากแดดหรือนำไปผ่านไฟเพื่อลดความขมของลูกพลับลง และจะช่วยให้น้ำตาลที่อยู่ในลูกพลับออกมา และมีรสชาติหวานขึ้น
คุณสามารถหาซื้อลูกพลับแห้งได้ในร้านผลไม้ทั่วไป แต่ว่าจะมีความแตกต่างกันตามแต่ละภูมิภาคอีกด้วย ก็คือแต่ละภาคจะมี Hoshigaki หรือลูกพลับแห้งที่ใช้ลูกพลับสายพันธุ์ในท้องถิ่นของตนเอง จึงทำให้แต่ละภาคมีลูกพลับแห้งไม่เหมือนกัน หากคุณมีโอกาสได้เดินทางไปในภาคต่างๆ ของญี่ปุ่นก็ลองหาซื้อมาชิมเปรียบเทียบกันดูได้ ลูกพลับแห้ง 1 แพ็ค (ประมาณ 20 ผล) จะมีราคาประมาณ 2,000-3,000 เยน
อ้างอิงจาก Japan National Tourism Organization
Posted by
JGB Staff
at
2011年07月13日
18:38
| สาระน่ารู้ By Staff
| สาระน่ารู้ By Staff